• Welcome to กระบี่วันนี้ ทุกเรื่องของจังหวัดกระบี่.
 

ททท. เปิดแผนตลาดปี’64 รุกเจาะกลุ่ม “มิลเลนเนียล”

เริ่มโดย เด็กกระบี่, พฤศจิกายน 20, 2020, 04:57:13 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

เด็กกระบี่

ททท.ตั้งเป้าปี'64 กวาดนักท่องเที่ยวเอเชียตะวันออก 11 ล้านคน ปักหมุดทำตลาดเจาะกลุ่ม "มิลเลนเนียล" เผยมีฐานประชากรกว่า 400 ล้าน แถมโตต่อเนื่อง-ตัดสินใจเดินทางไว เชื่อมั่นแผนเดิมเอาอยู่ แม้ใช้เวลาฟื้นนาน-การแข่งขันสูง ย้ำไทยยังยืน 1 ในใจจีน

นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า แม้ว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อย่างมีนัยสำคัญในปีนี้ แต่ ททท.ยังคงเชื่อมั่นว่าในปี 2564 ตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ยังสามารถฟื้นตัวจากสถานการณ์ปัจจุบันและตลาดหลักอย่างเอเชียตะวันออกน่าจะสามารถเก็บสะสมนักท่องเที่ยวได้ถึง 11,168,000 คน หรือลดลงเพียง 32.41% เมื่อเทียบกับปี 2562 โดยมีฐานประชากรในกลุ่มมิลเลนเนียล ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพสูงเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญ

โดยแผนการตลาดสำหรับตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้นั้นยังคงโฟกัสการขยายฐานในกลุ่มเป้าหมายที่เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ อย่างกลุ่มมิลเลนเนียล ซึ่งที่ผ่านมามีสัดส่วนกว่า 50% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมดในภูมิภาคเอเชียที่เดินทางเข้าสู่ไทยจำนวนกว่า 29 ล้านคนในปี 2562



"แม้ว่ากลุ่มนี้จะมีค่าใช้จ่ายต่อหัวไม่สูงเท่ากับกลุ่มประชากรวัยเกษียณหรือครอบครัว แต่เพราะมีอายุน้อยระหว่าง 20-35 ปี ทำให้เป็นกลุ่มที่มีนักท่องเที่ยวเติบโตต่อเนื่อง และพร้อมเดินทางเป็นกลุ่มแรก" นายฉัททันต์กล่าว

และไม่ว่าจะมีหรือไม่มีโควิด ททท.ก็มีแผนการทำตลาดและเป้าหมายหลักที่ชัดเจนมาโดยตลอด เนื่องจากมองเห็นการเติบโตขึ้นของกลุ่มมิลเลนเนียลสวนทางกับนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่น ๆ มีการเติบโตที่ถดถอยลง

โดยนอกจากจะเป็นกลุ่มที่มีจำนวนมากที่สุดแล้ว นักท่องเที่ยวกลุ่มมิลเลนเนียลยังสามารถเดินทางได้บ่อย ตัดสินใจได้เร็ว เนื่องจากปราศจากพันธะและมีสุขภาพดี รวมถึงสามารถปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีได้เป็นอย่างดี ทำให้สามารถจองผ่านออนไลน์ได้ทันที รวมทั้งชอบเดินทางเป็นกลุ่มใหญ่ และใช้จ่ายเกือบจะตลอดเวลาด้วย

"กลุ่มประชากรมิลเลนเนียลในเอเชียตะวันออกมีกว่า 400 ล้านคน ตลาดนี้จึงทวีความสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาที่ทุกประเทศกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดประเทศ และต้องการจะดึงดูดนักท่องเที่ยว ทำให้กลุ่มประชากรในภูมิภาคเดียวกันได้รับความสำคัญมากกว่าแต่ก่อน ผลักดันการแข่งขันให้สูงยิ่งขึ้นไปอีก" นายฉัททันต์กล่าว

อย่างไรก็ตาม นอกจากตลาดมิลเลนเนียลแล้ว ททท.ยังคงให้ความสำคัญกับตลาดลักเซอรี่ ตลาดท่องเที่ยวเชิงกีฬา ตลาดท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และตลาดท่องเที่ยวเชิงโรแมนติกควบคู่กันไปด้วย โดยมองว่าประเทศไทยควรยึดเซ็กเมนต์ที่ทำการบ้านไว้อย่างดีแล้ว และมีดีมานด์อยู่ต่อเนื่อง สร้างตำแหน่งทางการท่องเที่ยวของไทยให้ชัดเจนอย่างที่ทำมาโดยตลอด แม้การฟื้นคืนเทียบเท่ากับปี 2562 จะยังคงต้องใช้เวลา

สำหรับปี 2563 นี้ คาดการณ์ว่า ในสถานการณ์ที่ดีที่สุดเชื่อว่าไทยจะมีนักท่องเที่ยวจากตลาดหลักเอเชียตะวันออก 2,093,888 คน ลดลง 87.33% หากสามารถรับนักท่องเที่ยวในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคมได้ประมาณเดือนละ 4,000 คน หรือแย่ที่สุดไทยน่าจะสะสมจำนวนนักท่องเที่ยวได้ราว 2,070,888 คน ลดลง 87.47% หรือเท่ากับจำนวนสะสมที่มีอยู่ ณ ปัจจุบัน

และในส่วนของตลาดจีนนั้นเชื่อว่าด้วยความสัมพันธ์ในหลายระดับที่เหนียวแน่นจะทำให้ไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางอันดับ 1 ของคนจีน ขณะเดียวกันททท.ยังได้ประสานงานกับผู้ประกอบการไทยและต่างประเทศ จัดทำแพ็กเกจท่องเที่ยวล่วงหน้าขายให้กับนักท่องเที่ยวจีนมาโดยตลอด ทำให้เห็นดีมานด์ในการเดินทางมาไทยโดยตลอด

"ตอนนี้มีนักท่องเที่ยวบางส่วนซื้อแพ็กเกจล่วงหน้าของปีหน้า ตั้งแต่ช่วงเทศกาลตรุษจีนเป็นต้นไปแล้ว โดยแพ็กเกจสามารถเลื่อนวันเดินทางได้โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม รวมถึงราคาโดยรวมยังลดลงอย่างน้อย 20% ด้วย"

msn.com